GINI index คืออะไร
GINI index หรือ GINI coefficient คิดค้นโดย Corrado Gini นักสถิติชาวอิตาลี ใช้วัดความเหลื่อมล้ำความมั่งคั่งของประชากร ตัวดัชนีจะมีค่าตั้งแต่ 0–1 หรือ 0–100% โดย 0 แสดงถึงการกระจายตัวความมั่งคั่งของประชากรเท่ากันหมด และ 1 แสดงถึงไม่มีการกระจายตัวของความมั่งคั่งเลย
กล่าวง่ายๆคือ ถ้าประเทศใดประเทศหนึ่งถ้ามี GINI index เท่ากับ 0 ประชากรในประเทศจะมีรายได้เท่ากันหมดทุกคน ในทางกลับกันถ้าประเทศนั้นมี GINI index เท่ากับ 1 จะมีคนคนเดียวในประเทศนั้นถือครองรายได้ทั้งหมดไว้ในขณะที่คนอื่นๆในประเทศไม่ได้ถือครองสมบัติอะไรเลย
แล้วเราสามารถดูอะไรได้บ้างจาก GINI index? เราจะเห็นความเป็นอยู่ของประชากรในประเทศนั้นๆได้ ว่ามีความสุขมั้ย มีความเป็นอยู่ที่ดีมั้ย ได้รับการกดขี่ข่มเหงรึเปล่า?
ยกตัวอย่าง South Africa มี GINI index 61.3%(ปี 2014) เป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูง มีประชากรผิวขาวใช้ชีวิตในเมืองหลวงมีความสะดวกสบายครบครันมีความมั่งคั่งสูงเป็นลำดับต้นๆของโลก ในขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ด้วยความอัตคัดขัดสน แรนแค้น ใช้ชีวิตในสลัมซึ่งไม่มีแม้กระทั่งกฎหมายพื้นฐานใดๆ ว่ากันว่ามีบางย่านผู้อยู่อาศัยต้องพกพาปืนกันแทบทุกคน ในขณะที่ Denmark มี GINI index 28.2%(ปี 2015) ประชากรส่วนใหญ่ทำงานในพื้นที่ที่ไม่ใช่เมืองหลวงแถมมีรายได้ดีพอสมควร(ทำงานเฉลี่ยไม่เกิน 35 ชม ต่อ สัปดาห์) ผู้คนมีการศึกษาพื้นฐานที่ดีมากๆ เป็นประเทศที่มีสวัดิการให้ประชาชนในทุกช่วงอายุดีที่สุดในโลก
จะกล่าวว่า GINI index เป็น ดัชนีชี้วัดความสุขของประชากรก็กล่าวได้ อีกทางหนึ่งอาจจะสะท้อนการบริหารจัดการประเทศของรัฐบาลในประเทศนั้นๆ รัฐบาลอาจจะหาเงินเก่งเกินดุลการค้า จัดเก็บภาษีได้ดี เงินทองไม่รั่วไหล แต่ค่า GINI index กลับสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจจะแปลความได้ว่าเงินทองความมั่งคั่งอาจจะกำลังไหลเข้าสู่กระเป๋าคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากขึ้นๆ ในขณะที่คนจำนวนมากกลับเดือดร้อนขึ้น ขัดสนเงินทองมากขึ้น สวัดิการต่างๆให้กับประชาชนส่วนใหญ่(ที่ไม่ได้มีมิทธิพิเศษ)น้อยลงๆ ในทางกลับกันสวัดิการของบุคคลเฉพาะกลุ่มกลับมากขึ้นๆ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผู้บริหารประเทศอาจจะต้องดูนอกจาก GDP, average income per person ฯลฯ แล้วอยากจะรบกวนพวกท่านช่วยดู GINI index ด้วย เพื่อจะได้แก้ปัญหาความเป็นอยู่ให้ประชาชนให้มีมาตราฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจริงๆ